“หลง”
ผมยังเด็กนัก วิ่งเล่นซนไปวันๆ แต่พ่อกับพี่ชายก็ไม่เคยให้วิ่งออกนอกบริเวณบ้าน
พี่ชายผมตื่นสายประจำ ผมต้องคอยปลุกพี่ชายไปโรงเรียนอยู่เสมอ
ก่อนไปโรงเรียน พี่ชายจะมาหยอกล้อกับผมทุกวัน
“ตอนเย็นเจอกันนะ โมจิ ไปโรงเรียนก่อนนะ บ๊ายบาย”
พี่ชายผมลูบหัวเอ็นดูเบาๆ พี่ชายผมเรียนอยู่ ป.1 ฮะ วันหยุดเราขลุกตัวแต่อยู่ในบ้าน
พ่อไม่ให้ออกไปไหน ด้วยความที่ บ้านเราติดถนนใหญ่ พ่อเป็นห่วง
กลัวคนจะมาจับตัวไป ยิ่งมีข่าวเด็กหายอยู่บ่อยๆ
“พ่อกลัวรถจะชนน่ะ พี่เราก็โดนรถชนตายไปแล้ว”
สีหน้าพ่อเศร้าหมองทุกที ที่พูดถึงเรื่องรถชน
ผมเอียงคอรับคำ “ฮือๆงือๆ” เป็นสองคำที่ผมเปล่งเสียงออกมาได้ ก็บอกแล้วผมยังเด็กมาก
เช้าวันนั้นหลังจากที่เราไปส่งพี่ชายผมไปโรงเรียนแล้ว พ่อก็อุ้มผมมานั่งบนโซฟารับแขกหน้าบ้าน
ผมเอียงคอรับคำ “ฮือๆงือๆ” เป็นสองคำที่ผมเปล่งเสียงออกมาได้ ก็บอกแล้วผมยังเด็กมาก
เช้าวันนั้นหลังจากที่เราไปส่งพี่ชายผมไปโรงเรียนแล้ว พ่อก็อุ้มผมมานั่งบนโซฟารับแขกหน้าบ้าน
“เรารออยู่นี่นะห้ามลงจากโซฟาเด็ดขาด เข้าใจนะ"
พ่อกำชับแล้วเดินหายเข้าไปหลังบ้าน
ผมมองดูรถวิ่งผ่านไปมา มีเด็กๆรุ่นราวคราวเดียวกับพี่ชายผม กวักมือเรียกบ้างล่ะ มองดูผมบ้างล่ะ
ทุกคนดูเป็นมิตร ไม่เห็นหน้ากลัวเลย ผมค่อยๆปีนลงจากโซฟาเบาๆ เดินไปชะเง้อคออยู่หน้าบ้าน
ไม่รู้อะไรมาดลใจ ให้ผมเดินออกมาบนถนนใหญ่ พี่ชายคนหนึ่งเดินผ่านมาหยุดลูบหัวผมเบาๆ
แล้วเดินจากไป ขาเจ้ากรรมของผมสิฮะ เดินตามพี่ชายคนนั้นไปเฉยเลย ผมเดินห่างๆพี่เขาพอสมควร
อารมณ์กลัวและสงสัยคละเคล้ากันไป กว่าจะรู้ตัวก็เดินมาไกลจากบ้านมากแล้ว จะเดินกลับก็กลัว
พี่ชายคนนั้นหายไปแล้วฮะ เหลือแต่ผมที่เดินหน้าต่อไปอย่างไร้จุดหมาย น้ำตาเริ่มซึม คิดถึงพ่อ ร้องไห้
ก้มหน้าเดินต่อไปด้วยความหวาดระแวง ได้ยินเสียงชาวบ้านแถวนั้น พึมพำ
ผมมองดูรถวิ่งผ่านไปมา มีเด็กๆรุ่นราวคราวเดียวกับพี่ชายผม กวักมือเรียกบ้างล่ะ มองดูผมบ้างล่ะ
ทุกคนดูเป็นมิตร ไม่เห็นหน้ากลัวเลย ผมค่อยๆปีนลงจากโซฟาเบาๆ เดินไปชะเง้อคออยู่หน้าบ้าน
ไม่รู้อะไรมาดลใจ ให้ผมเดินออกมาบนถนนใหญ่ พี่ชายคนหนึ่งเดินผ่านมาหยุดลูบหัวผมเบาๆ
แล้วเดินจากไป ขาเจ้ากรรมของผมสิฮะ เดินตามพี่ชายคนนั้นไปเฉยเลย ผมเดินห่างๆพี่เขาพอสมควร
อารมณ์กลัวและสงสัยคละเคล้ากันไป กว่าจะรู้ตัวก็เดินมาไกลจากบ้านมากแล้ว จะเดินกลับก็กลัว
พี่ชายคนนั้นหายไปแล้วฮะ เหลือแต่ผมที่เดินหน้าต่อไปอย่างไร้จุดหมาย น้ำตาเริ่มซึม คิดถึงพ่อ ร้องไห้
ก้มหน้าเดินต่อไปด้วยความหวาดระแวง ได้ยินเสียงชาวบ้านแถวนั้น พึมพำ
“เฮ้ยดูสิไอ้หนูนั่นมาจากไหน”
อยากเดินเข้าไปหา แต่ก็กลัวเขาจะจับไป อย่างคำที่พ่อเคยพูดให้ฟัง
สุดท้าย มีป้าร้านขายอาหารตามสั่ง วิ่งเข้ามาอุ้มผม
สุดท้าย มีป้าร้านขายอาหารตามสั่ง วิ่งเข้ามาอุ้มผม
“ไอ้หนูเอ้ยเรามาจากไหนนี่ห๊ะ ดูสิมอมแมมเชียว”
ผมร้องไห้
“ฮือๆงือๆ”
“มาๆ เอ้านี่คงจะหิวละสิ“ ป้าคนนั้นหาข้าวหานมให้ผมกินฮะ ใจดีจังเลย
ผมจัดการทุกอย่างพุงปลิ้นเลยล่ะ กินเสร็จ ป้าแกก็ทำงานต่อ
“เจ้านี่มากไหนนิไม่เคยเห็นเลย แม่ค้า”
คุณยายลูกค้า ถามคุณป้า ที่กำลังผัดข้าวผัด ส่งกลิ่นหอมยวนใจ
“ไม่รู้สิยาย เห็นเดินคอตกมา ฉันเลยอุ้มมาไว้ที่นี่แหละ”
ป้าว่าพลางจัดกล่องข้าวสามสี่กล่องใส่ถุงให้คุณยาย
“ยายเอาไปเลี้ยงหน่อยสิ ฉันไม่มีเวลาดูแลหรอก
เห็นที่บ้านยาย ไอ้ตัวเล็กๆเยอะนี่ เอาไปเป็นเพื่อนกัน นะ “
คุณยายยิ้มรับ ด้วยความยินดี “มาเจ้าหนู ไปอยู่กับยาย เพื่อนๆเยอะเลยล่ะ”
คุณยายมาอุ้มผมไปท่าทางแกเอ็นดูผมมากเลยฮะ
ผมเอียงคอมองคุณยายด้วยความกังวลเล็กๆ
ผมคิดถึงพ่อ คิดถึงพี่ชาย ป่านนี้ พี่ชายผมคงใกล้จะเลิกเรียนแล้ว
ถ้าพี่กลับมาไม่เจอผม พ่อไม่เจอผม พวกเขาจะเป็นอย่างไร
ผมคิดถึงพ่อ คิดถึงพี่ชาย ป่านนี้ พี่ชายผมคงใกล้จะเลิกเรียนแล้ว
ถ้าพี่กลับมาไม่เจอผม พ่อไม่เจอผม พวกเขาจะเป็นอย่างไร
จะเดินกลับเองก็หลงทาง จำทางกลับไม่ได้
คุณยายพาผมมาที่บ้านท่าน แกะกล่องข้าวที่พึ่งซื้อมาออก
“เอ้ามาเร็วลูกๆ กินข้าวกัน อย่างแย่งกันนะ คนล่ะกล่อง เอ้าๆ”
ผมนั่งมองดูลูกๆของคุณยายจัดการกับข้าวกล่อง จนเกลี้ยงทุกกล่อง
แล้วพวกเขาก็เริ่มวิ่งเล่นกัน เสียงดังเอะอะ น่าสนุกมากเลยฮะ
“ไปสิเจ้าหนู ไปวิ่งเล่นกับเพื่อนๆสิ” เสียงคุณยาย กระตุ้นทางด้านหลัง
บ้านของคุณยายมีลานกว้าง ใหญ่กว่าหน้าบ้านพ่ออีกฮะ
ไม่ต้องกลัวรถชน เพราะที่นี่มีรั้วกั้น ปลอดภัย
วิ่งเล่นอยู่นานฮะ เหนื่อยแต่สนุก จนลืม พ่อกับพี่ชายไปเลย
วิ่งเล่นอยู่นานฮะ เหนื่อยแต่สนุก จนลืม พ่อกับพี่ชายไปเลย
สักพักได้ยินเสียงรถ มอเตอร์ไซต์ กับเสียงร้องเรียกคุ้นหู ดังมาจากหน้าบ้าน
“โมจิ.......... อยู่นี่เอง กลับบ้านเรากันเถอะมาเร็วๆ”
เสียงพี่ชายผมฮะ มากับพ่อยืนอยู่ตรงรั้วหน้าบ้าน สีหน้าดีใจอธิบายไม่ถูก
ผมรีบวิ่งเข้าไปหาทันที น้ำตาร่วงพรู เข้าสู่อ้อมกอดพี่ชายผม
ผมรีบวิ่งเข้าไปหาทันที น้ำตาร่วงพรู เข้าสู่อ้อมกอดพี่ชายผม
“ฮือๆงือๆ” ผมร้องอยู่ในอ้อมกอด พี่ชาย
ได้ยินเสียงพ่อกับคุณยายคุยกันปนเสียงเห่าของลูกๆคุณยาย
“หมาเอ็งหรอกเหรอไอ้ทิด เอ้าๆในเมื่อเรียกชื่อแล้วมันวิ่งหาก็ไม่ต้องสงสัยแล้วล่ะ”
คุณยายโบกไม้โบกมือ
“ครับคุณยาย นี่ผมตามหามาตั้งแต่สายๆแล้ว กะว่ารับลูกชายที่โรงเรียนเสร็จ
จะออกไปแจ้งความหมาหายเหมือนกัน ซื้อมาตั้ง5พัน เสียดายครับ
กลัวจะโดนรถชนเหมือนตัวที่แล้วอีก ต้องขอบคุณยายมาก ที่ช่วยดูแลไว้ให้ครับ”
พ่อยกมือไหว้คุณยายขอบคุณเป็นการใหญ่ แล้วเราทั้งสองคน กับ 1ตัว(ผมนี่ละฮะ)
ก็กลับบ้านกันในเย็นวันนั้น

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น